
รสชาติดี มีกลิ่นหอม น่ารับประทานอีกทั้งผลผลิตมีความปลอดภัย ไม่มีสารเคมีตกค้างปนเปื้อน ทำให้กล้วยหอมทองของไทยได้รับความนิยมเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคในตลาดญี่ปุ่น แนวโน้มความต้องการของตลาดยิ่งเพิ่มมากขึ้น
กล้วยหอมทองที่ปลูกในประเทศไทย ลักษณะทั่วไปจะมีกล้าต้นสูงประมาณ ๓ เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง
มากกว่า ๒๐ ซม. กาบล้าต้นด้านนอกมีประดำ ด้านในสีเขียวอ่อน มีลายเส้นสีชมพู ก้านใบมีร่องค่อนข้างกว้าง เส้นกลาง ใบสีเขียว ส่วนของดอก ก้านเครือมีขน ปลีรูปไข่ค่อนข้างยาว ปลายแหลม ด้านบนมีสีแดงอมม่วงกล้วยเครือหนึ่งมี ๔-๖ หวี หวีหนึ่งมี ๑๒-๑๖ ผล ปลายผลมีจุกเห็นชัด เปลือกบาง เมื่อสุกเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง เนื้อสีเหลืองเข้ม กลิ่นหอม รสหวานน่ารับประทาน
การปลูกกล้วยหอมทอง (เตรียมดิน) เกษตรกรต้องเลือกพื้นที่ให้เหมาะสม น้้าไม่ท่วม ดินร่วนซุย ระบายน้้าได้ดี หากดินตรงไหนเป็นแอ่งควรปรับดินให้มีความลาดเท เพื่อป้องกันน้้าท่วมในฤดูฝน ถ้าจะให้ดินมีแร่ธาตุ มีอินทรียวัตถุสูง เพิ่มธาตุอาหารในดินควรปลูกปอเทือง แล้วไถกลบ ถ้าเป็นดินเหนียวควรทำการยกร่อง และ ปลูกบนสันร่องทั้ง ๒ ข้าง ขุดหลุมขนาดกว้าง ๕๐ ซม. ลึก ๕๐ ซม. น้าดินที่ขุดกองตากไว้ ๕-๗ วัน เพื่อกำจัดวัชพืชและศัตรูพืชที่ตกค้างในดินหลังจากนั้นคลุกเคล้าปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักกับดินชั้นบน แล้วจึงเอา

เมื่อต้นกล้วยมีอายุ ๒๐-๓๐ วัน ทำการปาดหน่อเพื่อให้ต้นและแตกใบเสมอกัน ต้นกล้วยอายุได้ ๔-๖

(การให้นัำ) ในพื้นที่ปลูกขนาดใหญ่ จะใช้วิธีสูบน้้าจากบ่อบาดาล หรือบ่อกักเก็บที่อยู่ใกล้สวน สูบน้้า


(การค้ำยันต้นกล้วย) กล้วยหอมทองมักประสบปัญหาเรื่องหักล้มง่าย เครือใหญ่หนัก และคออ่อน เมื่อขาดน้้าหรือลมพัดก็หักโค่นเสียหาย จึงต้องใช้ไม้ค้้ายันหรือดามกล้วยทุกต้นที่ออกปลีแล้ว และตรวจดูการค้้ายันให้อยู่ในสภาพที่มั่นคงแข็งแรง ประมาณ ๑๐ เดือน หลังจากปลูกกล้วยจะเริ่มแทงปลีออกมา เมื่อกล้วยแทงปลีจนสุดให้ตัดปลีทิ้ง หากไม่ตัดปลีกล้วยทิ้งจะทำให้ผลกล้วยเติบโตไม่เต็มที่
(การห่อถุง) การปลูกกล้วยหอมเพื่อส่งออก หลังจากตัดปลีแล้ว ควรทำการคลุมถุง ถุงที่ใช้ควรเป็นถุงพลาสติกที่ฟ้าขนาดใหญ่ และยาวกว่าเครือกล้วย เปิดปากถุงให้มีอากาศถ่ายเทได้ดี (เก็บเกี่ยว) ประมาณ ๙๐-๑๑๐ วัน กล้วยจะแก่พอดี ก็จะทำการเก็บเกี่ยว สามารถสังเกตได้จากกล้วยหวีสุดท้ายเริ่มกลม สีผลจางลงกว่าเดิม ถ้าปล่อยให้แก่คาต้นมากเกินไปจทำให้เปลือกกล้วยแตก ผลเสียหาย
ปัจจุบันสหกรณ์การเกษตรท่ายาง จำกัด รับซื้อผลผลิตจากสมาชิก จำหน่ายทั้งในและต่างประเทศการผลิตกล้วยหอมทองเพื่อส่งออกของ สหกรณ์การเกษตรท่ายาง จำกัด จะผลิตตามที่ได้ตกลงกันในสัญญาซื้อขายกับสหกรณ์ผู้บริโภค ประเทศญี่ปุ่น ทั้งสองฝ่ายจะปฏิบัติตามสัญญาอย่างเคร่งครัด เข้มงวดในทุกกระบวนการผลิต ตั้งแต่การคัดเลือกสมาชิกเข้าร่วมโครงการ พื้นที่การปลูกกล้วยหอม การคมนาคมสะดวกต่อการเก็บลผลิต ประการสำคัญสมาชิกต้องจำหน่ายให้สหกรณ์เท่านั้น
สมาชิกต้องได้รับการอบรมความรู้เกี่ยวกับการผลิตกล้วยหอมทองปลอดสารพิษโดยไม่ใช้การใช้สารเคมีใช้เฉพาะปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก วิธีการปลูก การดูแลรักษา ต้องพิถีพิถันมากกว่าการปลูกกล้วยหอมทองตามปกติ โดยได้รับความร่วมมือจากกรมส่งเสริมสหกรณ์ และกรมส่งเสริมการเกษตร
การวางแผนการผลิต สหกรณ์ผู้บริโภคประเทศญี่ปุ่นมีความต้องกล้วยหอมทองปีละประมาณ ๔๐๐ ตัน

การเก็บเกี่ยวกล้วยหอมทอง จะเก็บเกี่ยวกล้วยหอมที่มีความแก่ประมาณ ๗๐% โดยสหกรณ์จะขนส่ง จากสวนของสมาชิกจนถึงสหกรณ์ เมื่อถึงสหกรณ์จะแบ่งเครือกล้วยออกเป็นหวี คัดกล้วยที่ได้ตามขนาดและมีความสมบรูณ์ หลังจากนั้นจะตัดเกสร ล้างทำความสะอาดผลกล้วย ตัดครึ่งหวีกล้วย ตัดแต่งผลที่เสียหาย แช่น้้า ๕ นาทีล้างยางกล้วย เป่าลมตามช่องเพื่อกำจัดแมลงและทำให้กล้วยแห้ง
ชั่งน้ำหนักก่อนการบรรจุ ติดสติกเกอร์หมายเลขทุกกล่องเพื่อให้รู้ว่ากล้วยหอมทองเป็นของสมาชิกราย
ใด น้้าหนักของกล้วยต้องให้ผลมีน้้าหนักไม่น้อยกว่า ๑๑๐ กรัม ประมาณ ๗ ผล การบรรจุกล้วย ต้องไม่เกิน ๒ ซม. จากขอบกล่อง กล่องละ ๑๓ - ๑๓.๖๐ กิโลกรัม ห่อด้วยพลาสติก ดูดอากาศออกมัดปากถุงให้แน่น จากนั้นขนย้ายเข้าห้องเย็นเก็บรักษาที่อุณหภูมิ ๑๓ องศาเซลเซียส การเรียงกล่องแต่ชั้นต้องไม่เกิน ๑๐ กล่อง เพราะต้องมีช่องว่างระบายอากาศ ปิดม่านตลอด รอการขนส่งไปยังประเทศญี่ปุ่นต่อไป
การผลิตกล้วยหอมทองจำหน่ายภายในประเทศ นอกจากการส่งกล้วยหอมทองไปจำหน่ายต่างประเทศแล้วสหกรณ์การเกษตรกรท่ายาง จำกัด ยังจำหน่ายกล้วยหอมทองให้กับห้างเทสโก้โลตัส ท๊อป จัสโก้ เลมอน วิลล่า ฟูจิ กล้วยที่จำหน่ายภายในประเทศจะมีความแก่มากกว่ากล้วยที่ส่งไปยังประเทศญี่ปุ่น
ขั้นตอนการผลิตเหมือนกับการส่งกล้วยหอมทองไปต่างประเทศ เมื่อขนส่งกล้วยถึงสหกรณ์จะทำการคัดแยกหวี ล้างกล้วยให้สะอาดเป่ากล้วยให้แห้งด้วยแรงลมที่มีแรงอัดสูง การตรวจสอบคุณภาพจะมีการเช็คโรคแมลงอย่างละเอียด เพื่อมิให้สิ่งแปลกปลอมที่หลงเหลือติดไปกับผลกล้วย ตัดแบ่งหวีกล้วย ชั่งน้้าหนัก บรรจุถุงพลาสติกถุงละประมา๕.๕ กิโลกรัม เมื่อบรรจุลงกล่องน้าไปบ่มด้วยแก็สเอทิลีน ๒๐ ชั่วโมง แล้วนำออกมาพักไว้ ก่อนเก็บรักษาในห้องเย็น รอการขนส่งลูกค้า
แหล่งที่มาของข้อมูลโดย : สำนักงานสหกรณ์จังหวัดเพชรบุรี
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น